English to Thai: Diagnosis of Retinal detachment
General field: Medical
Detailed field: Medical (general) | |
Source text - English
Diagnosis of Retinal detachment
Retinal detachment occurs by 3 basic mechanisms and thus is classified into the following 3 main types:
•Rhegmatogenous retinal detachment (the most common type) – This results when a hole, tear, or break in the neuronal layer allows fluid from the vitreous to seep between and separate sensory and RPE layers
•Traction retinal detachment – This results from adhesions between the vitreous gel/fibrovascular proliferation and the retina
•Exudative (serous) retinal detachment – This results from exudation of material into the subretinal space from retinal vessels (as in hypertension, central retinal venous occlusion, vasculitis, or papilledema)
Laboratory tests are not helpful in detecting retinal detachment, but basic blood work may be useful if the patient requires surgical intervention.
Unless globe rupture, orbital/facial bone fractures, or intraocular foreign bodies are suspected, diagnostic imaging is not warranted.
| Translation - Thai
การวินิจฉัยภาวะจอประสาทตาหลุดลอก
จอประสาทตาหลุดลอก เกิดได้จาก 3 กลไก และแบ่งได้เป็นสามประเภท
- ภาวะจอประสาทตาหลุดลอกแบบมีรูฉีกขาด (เป็นชนิดที่พบบ่อยที่สุด) - เกิดจากการมีรู มีรอยฉีกขาด หรือมีรอยแยกของชั้นประสาทตา ทำให้มีของเหลวจากวุ้นตาแทรกเข้าไปและทำให้ชั้นเม็ดสีของตา แยกออกจากชั้นเส้นประสาท
- ภาวะจอประสาทตาหลุดลอกที่เกิดจากแรงดึง - เป็นผลมาจากการมีพังผืดหรือเนื้อเยื่อเกี่ยวกับ มายึดระหว่างวุ้นตา กับจอประสาทตา
- ภาวะจอประสาทตาหลุดลอกแบบมีสารคัดหลั่งยู่ภายใน - เป็นผลมาจากการมีสารคัดหลั่งรั่วออกจากเส้นเลือด ไปอยู่ภายใต้ชั้นจอประสาทตา (พบได้ในภาวะความดันโลหิตสูง, ภาวะเส้นเลือดดำที่จอตาอุดตัน, ภาวะเส้นเลือดอักเสบ หรือภาวะเส้นประสาทตาบวม)
การส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการมักไม่มีประโยชน์ในการวินิจฉัยภาวะจอประสาทตาหลุดลอก แต่การตรวจเลือด อาจมีประโยชน์ในการวางแผนก่อนการผ่าตัด
หากไม่ได้สงสัยว่ามีภาวะลูกตาแตก, กระดูกเบ้าตา/กระดูกหน้าหัก หรือมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในลูกตา การตรวจวินิจฉันภาพทางรังสีอาจจะไม่มีประโยชน์ |
Portfolio